ดื่มเหล้าแบบตับไม่พัง ต้องดื่มอย่างไร
ชาวสมหวังหลายๆ คนที่เป็นนักดื่ม อาจจะสงสัยกันว่า ถ้าเรายังงดเหล้าก่อนที่เข้าพรรษาปีนี้จะมาถึงกันไม่ได้ งั้นเราควรดื่มอย่างไร เพื่อให้ทำร้ายสุขภาพของเราน้อยที่สุด
อันดับแรกเราคงต้องบอกก่อนเลยว่า การดื่มมากหรือดื่มน้อยของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย เช่น
- เพศ เพศหญิงจะมีการดูดซึมแอลกอฮอล์ได้เร็วกว่าเพศชาย
- กรรมพันธุ์ ส่งผลให้ระบบการเผาผลาญของแต่ละคนไม่เท่ากัน
- โรคประจำตัว หากเป็นโรคตับอยู่แล้ว การดื่มแอลกอฮอล์ก็จะยิ่งส่งผลให้เกิดอันตรายได้มากขึ้น
- ช่วงเวลาในการดื่ม การดื่มแอลกอฮอล์ตอนท้องว่าง อาจทำให้เมาเร็วและส่งผลต่อตับได้มากกว่า
แล้วการดื่มแอลกอฮอล์นั้น ดื่มมากขนาดไหนถึงจะส่งผลต่อตับ?
หากคุณดื่มวันละ 4 – 5 ดริ๊งต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี จะมีอาการแรกเริ่มเลยคือไขมันสะสมที่ตับ แต่ถ้าคุณยังทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เป็นเวลา 10 ปี ก็จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคตับแข็งได้ โดยจะเร็วหรือช้ากว่านี้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านบนตามที่กล่าวมา รวมทั้งพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย
แล้วดื่มแบบไหน ที่จะส่งผลต่อตับน้อยที่สุด มีคำแนะนำดังนี้ครับ
- ไม่ควรดื่มทุกวัน แต่ถ้าอยากดื่มทุกวันต้องดื่มแต่น้อย ตามปริมาณที่เหมาะสม คือ ผู้หญิงไม่ควรเกิน 1 แก้ว และผู้ชายไม่ควรเกิน 2 แก้ว
- เลือกดื่มไวน์ จะดีกว่าเหล้า เบียร์ เพราะมีประโยชน์มากกว่า
- รับประทานอาหารลงท้องก่อนดื่ม เพื่อให้ร่างกายไม่ดูดซึมแอลกอฮอล์มากจนเกินไป
- ลดอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อลดความเสี่ยงเพิ่มต่อการเป็นโรคตับ
- นอกจากนี้ยังมีคำถามว่า ระหว่างการดื่มหนักๆ ทีเดียว กับดื่มน้อยๆ แต่เป็นประจำทุกวัน แบบไหนอันตรายกว่า?
ต้องบอกว่า การดื่มแต่ละแบบนั้นให้ผลเสียที่แตกต่างกัน นั่นคือ หากดื่มหนักๆ ในคราวเดียว จะเป็นการเสี่ยงต่อโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน และตับอักเสบเฉียบพลันได้ แต่ถ้าคุณมีโรคประจำตัว เช่น โรคเส้นเลือดในสมองตีบ ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มอันตรายให้ถึงชีวิตได้ด้วย
ในขณะที่การดื่มแต่น้อย แต่ดื่มทุกวัน และดื่มในปริมาณที่มากเกินพอดี ก็จะค่อยๆ ทำให้ตับแย่ลง เกิดเป็นผังผืด และกลายเป็นตับแข็งในอนาคตได้
ทั้งนี้ เรายังสามารถสังเกตตัวเองได้ว่า หากเราดื่มแอลกอฮอล์และมีอาการตัวแดงง่าย นั่นแปลว่าร่างกายกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้ไม่เร็วมากพอ ยิ่งดื่มเรื่อยๆ จะยิ่งอันตราย ฉะนั้น นักดื่มทั้งหลายนอกจากควรดื่มแต่พอดีตามปริมาณที่แนะนำแล้ว ควรหมั่นสังเกตตัวเองทุกครั้งที่ดื่ม และเลือกดื่มแอลกอฮอล์ที่มาจากเครื่องดื่มที่ให้ประโยชน์มากกว่า ที่สำคัญหากพบว่าร่างกายมีความผิดปกติ เช่น ดื่มเช้ามาก็อยากดื่มเลย หรือถ้าเมื่อไรที่ไม่ได้ดื่มจะมีอาการหงุดหงิด โมโหร้าย ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาอาการทันที
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : รายการ S Life By Samitivej