หลังกลับจากช่วงเทศกาลหยุดยาวกันมา การดูแลรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ที่พี่ ๆ ทุกคนต้องไม่ละเลยกันนะครับ เพราะหลายคนต้องขับฝ่ารถติดกันลากยาวหลายชั่วโมงทั้งขาไป และขากลับ ยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาลสำคัญอย่างสงกรานต์ด้วยแล้วล่ะก็ อาจจะต้องตรวจเช็กห้องเครื่องให้ละเอียดกว่าเดิมนะครับ วันนี้น้องสมหวังจะมาบอก 7 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการดูแลรถยนต์ให้พี่ ๆ ทุกคนกันเอง รับรองว่าทำได้ทุกคนแน่นอน
7 ขั้นตอนการดูแลรถยนต์หลังจากเดินทางไกล
1. ทำความสะอาดรถ
สิ่งแรกที่ควรทำในการดูแลรถยนต์เลยก็คือ การล้างรถทำความสะอาดรอบคัน และถ้ามีเวลาก็ควรดูดฝุ่นภายในด้วยเช่นกันครับ เพราะระหว่างการเดินทางไกล พี่ ๆ หลายคนน่าจะต้องมีของกินติดรถไปด้วยระหว่างทางอยู่ นอกจากภายนอกที่สกปรกจากคราบฝุ่นควัน และมลพิษที่ต้องล้างให้สะอาดแล้ว กลิ่นภายในรถก็ควรกำจัดให้เกลี้ยงด้วยนะครับ จะได้เริ่มต้นวันใหม่กับการทำงานได้อย่างสดชื่นไปเลย
2. เช็กลมยาง
แรงดันลมยาง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญในการดูแลรถยนต์หลังเดินทางไกลเช่นกันครับ เพราะการเดินทางไกล มักจะเกิดความร้อนขึ้นสูงที่ยางรถของพี่ ๆ บวกกับระยะทางที่ไกล อาจทำให้แรงดันลมยางรถลง ซึ่งเป็นอันตรายต่อการขับขี่ และจะทำให้กินน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยนะครับ หากไม่เติมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
3. เช็กหม้อน้ำ
ความร้อนขึ้นในรถยนต์ก็เป็นอีกเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์พังมาไม่น้อยเลยทีเดียว การหมั่นเช็กระดับน้ำหล่อเย็น รวมถึงการดูความร้อนในขณะติดเครื่องยนต์ ก็เป็นอีกจุดสำคัญในการดูแลรถยนต์ที่ไม่ควรพลาดเช่นกันครับ หากน้ำหล่อเย็นลดระดับลงนิดหน่อย ก็สามารถเติมเพิ่มเข้าไปได้เลย แต่หากลดจนใกล้ระดับ Min อาจเป็นสัญญาณเตือนของการรั่วไหลในระบบหล่อเย็น ให้นำรถไปตรวจเช็กทันทีจะปลอดภัยกว่าครับ
4. เช็กห้องเครื่อง
พี่ ๆ หลายคนอาจจะสงสัย ว่าเวลาเช็กห้องเครื่องจำเป็นต้องดูอะไรบ้าง หลัก ๆ เลยก็จะเป็นของเหลวต่าง ๆ อย่างน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น น้ำมันเบรก หรือสายไฟ และท่อต่าง ๆ นั่นเองครับ ให้เช็กดูง่าย ๆ ว่าภายในห้องเครื่องแห้งสนิทดีไหม มีของเหลวไหลเยิ้มภายในหรือเปล่า ถ้าแห้งสนิทดี และระดับของเหลวต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์ปกติในการใช้งานตามคู่มือ ก็สบายไปเปราะหนึ่งได้เลยครับ
5. เช็กระบบไฟ
อย่างที่น้องสมหวังบอกไปครับว่า ระบบไฟฟ้าก็เป็นอีกจุดสำคัญในการดูแลรถยนต์ ยิ่งถ้าเดินทางไกล ๆ หรือต้องขับลุยฝน ระบบไฟฟ้าภายในเป็นอะไรที่สำคัญมากครับ จึงต้องตรวจเช็กการทำงานของไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยวดูให้ดี ว่ายังทำงานได้ตามปกติหรือไม่ เพราะรถเราจำเป็นต้องใช้ทุกวัน หากไฟแจ้งเตือนเกิดเสียขึ้นมา อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นะครับ
6. เช็กไส้กรองอากาศ
ไส้กรองอากาศ เป็นอีกหนึ่งจุดตรวจเช็กสำคัญในการดูแลรถยนต์ ไม่ต่างจากจุดอื่นเช่นกัน พี่ ๆ หลายคนอาจไม่รู้ว่า ไส้กรองอากาศที่อยู่ติดบริเวณเครื่องยนต์ สามารถถอดออกมาตรวจเช็กตามคู่ได้นะครับ ซึ่งหากมีการอุดตัน หรือมีเศษสิ่งสกปรกอยู่เยอะ ก็อาจจะทำให้รถอืด กินน้ำมัน หรือมีความร้อนขึ้นได้เหมือนกัน หากตรวจพบว่าสกปรก ให้ทำการเปลี่ยนเลยจะดีที่สุด
7. เช็กระบบเบรก
ในการดูแลรถยนต์ ระบบเบรกก็เป็นจุดสำคัญเช่นกัน หลังจากเดินทางไกลมา ควรจะทดสอบว่าเบรกยังทำงานได้ตามปกติไหม มีอาการเบรกจม เบรกแล้วมีเสียง หรือมีระยะเบรกเพิ่มขึ้นผิดปกติไหม หากมีอาการดังที่ว่ามา ควรจะนำรถเข้าไปตรวจเช็กจะเป็นการดีที่สุดนะครับ แต่หากไม่มีอาการที่ว่าเลย ก็อุ่นใจในการใช้งานต่อได้เลย
ทำไมจึงควรเลี่ยงการห้องเครื่อง หรือฝากระโปรงรถทันทีหลังเดินทางไกล?
เพราะอุณหภูมิภายในห้องเครื่องยนต์มีความร้อนสะสมสูง การฉีดน้ำล้างเพื่อระบายความร้อน อาจสร้างความเสียหายให้เกิดการบิดเบี้ยวเอาได้ จึงควรจอดรถให้สนิท พร้อมกับเปิดฝากระโปรงหน้าทิ้งไว้เพื่อระบายความร้อน จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
สรุปบทความ
และนี่ก็ข้อ 7 วิธีในการดูแลรถยนต์หลังเดินทางไกล ที่น้องสมหวังนำมาฝากพี่ ๆ ทุกคนนำไปปรับใช้เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานรถให้อยู่กับทุกคนไปได้นาน ๆ นะ และสำหรับพี่ ๆ คนไหนที่ปัญหาจำเป็นต้องหมุนเงินด่วน แต่ยังไม่รู้จะหยิบยืมที่ไหนดี หากรถมีเล่มทะเบียน สามารถนำมาขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่ สมหวัง เงินสั่งได้ พร้อมรับเงินก้อนไปหมุนเวียนได้ทันที หากอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถโทรสอบถามข้อมูล 02-123-4000 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่แอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
