ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การทำร้านขายของชำ หรือร้านโชห่วยในยุคปัจจุบัน เป็นเรื่องท้าทายมาก ๆ ครับ ด้วยการเข้ามาตีตลาดอย่างเต็มรูปของร้านสะดวกซื้อ แต่พี่ ๆ ที่ทำร้านขายของชำอยู่ไม่ต้องหมดหวังไปนะครับ พร้อมวันนี้ น้องสมหวังมีเคล็ดลับที่น่าสนใจในการเปิดร้านขายของชำให้ขายดี มีกำไร ค้าขายได้ยาว ๆ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การทำร้านขายของชำ หรือร้านโชห่วยในยุคปัจจุบัน เป็นเรื่องท้าทายมาก ๆ ครับ ด้วยการเข้ามาตีตลาดอย่างเต็มรูปของร้านสะดวกซื้อ แต่พี่ ๆ ที่ทำร้านขายของชำอยู่ไม่ต้องหมดหวังไปนะครับ พร้อมวันนี้ น้องสมหวังมีเคล็ดลับที่น่าสนใจในการเปิดร้านขายของชำให้ขายดี มีกำไร ค้าขายได้ยาว ๆ
5 เคล็ดไม่ลับทำร้านขายของชำ
พี่ ๆ หลายคนที่กำลังทำร้านขายของชำ หรือตัดสินใจจะเปิดร้านโชห่วยในพื้นที่ชุมชน ในหมู่บ้าน นี่คือ 5 เคล็ดไม่ลับในการทำร้านขายของชำ
1. จัดร้านขายของชําให้น่าเข้า
พี่ ๆ รู้กันไหมครับว่า การจัดเรียงสินค้าให้สวยงามแน่นชั้นวาง และแบ่งประเภทของให้ชัดเจน เพื่อความสะดวกในการหาสินค้า จะช่วยให้ลูกค้าอยากเข้าร้านมากกว่า เพราะดูมีสินค้าเยอะน่าเลือกซื้อมากกว่าปล่อยให้ชั้นวางโล่ง หรือล้มระเกะระกะจนสภาพสินค้าดูแย่ ตามด้วยการจัดช่องทางเดินเองก็สำคัญเช่นกัน ควรมีระยะห่างที่พอดีให้ลูกค้าไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป จะได้เดินเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสบายใจนั่นเองครับ นี่จึงเป็นเทคนิคการจัดร้านขายของชำให้น่าเข้าที่น่าสนใจและต้องมีครับ
2. ตั้งราคาขายให้เหมาะสม
แม้ว่าร้านโชห่วย จะเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ที่ต้องรับสินค้ามาขายต่อเพื่อบวกกำไรอีกที แนะนำให้ตั้งราคาขายสินค้าอย่างเหมาะสม ไม่บวกกำไรต่อชิ้นมากเกินไปโดยใช้หลักคิดจากการดูต้นทุนสินค้าว่ามีราคาเท่าไหร่ เราต้องการกำไรต่อชิ้นเท่าไหร่เพื่อความคุ้มค่ากับต้นทุนที่ลงไป แต่อย่าตั้งกำไรแพงเวอร์เกินไป เช่น สินค้านี้อยากได้กำไรเพิ่ม 10 บาทต่อชิ้น แต่ก็อย่ากำหนดราคาเยอะเกินไป เพราะลูกค้าอาจจะหนีไปซื้อร้านอื่นแทนร้านเรา ถ้าชัวร์ ๆ ก็ลองเช็กราคาตลาดได้ครับว่า สินค้านั้นขายอยู่ที่ราคาเท่าไหร่
3. ร้านสะอาดและสว่าง
ความสะอาด รวมไปถึงไฟส่องสว่าง เป็นจุดสำคัญที่ร้านขายของชำต้องมี เพื่อให้น่าซื้อ น่าเข้า การมีไฟส่องสว่างที่เพียงพอ เห็นชัด เลือกสินค้าง่าย จะทำให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยในการเข้ามาซื้อสินค้า และไม่คิดว่าร้านเราปิดอยู่ครับ รวมไปถึงสินค้าที่อยู่บนชั้นวางจะมองเห็นได้ง่าย และช่วยให้ลูกค้าอ่านฉลากสินค้าได้สะดวกขึ้นสะดวกในการตัดสินใจซื้อสินค้าได้กว่าเดิมด้วยครับ
4. สร้างชุมชนและความเป็นกันเองกับลูกค้า
ความเป็นชุมชนและความสนิทสนมเป็นแต้มต่อครับ และอีกหนึ่งข้อดีที่เป็นแต้มต่อของร้านขายของชำ ก็คือ การเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่านั่นเองครับ เพราะการที่เราไม่ได้มีลูกจ้าง หากเรามีอัธยาศัยที่ดี ถามไถ่ลูกค้าอยู่เสมอ ถามแต่พอเหมาะไม่ซอกแซกเกินนะครับ เพราะถ้าถามเยอะเกินอาจจะดูไม่ดี จุดนี้อาจพิชิตใจลูกค้าให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้เหมือนกันนะครับ
5. ตกแต่งร้านตามเทศกาล
เทศกาลไหนก็แต่งร้านตามเทศกาลนั้น การตกแต่งร้านตามหน้าเทศกาลช่วยดึงดูดได้มากเลยนะ รวมไปถึงการจัดสินค้าที่เกี่ยวกับช่วงนั้น ๆ มาขาย และวางให้เห็นเด่น ๆ ชัด ๆ ก็เป็นอีกวิธีในการดึงลูกค้าเข้าร้านได้เหมือนกัน เพราะหน้าเทศกาลเป็นช่วงเวลาวันหยุด ที่มีคนมาใช้เวลาพักผ่อน รวมทั้งสังสรรค์ การตกแต่งร้านจึงเป็นจุดดึงสายตาที่ดี ว่าร้านเรายังคงเปิดขาย พร้อมให้บริการอยู่นั่นเองครับ