สวัสดีครับ สำหรับคนที่อยากมีธุรกิจส่วนตัวและกำลังมองหาไอเดียค้าขาย อยากเปิดร้านเล็ก ๆ ขายอะไรดีที่ใช้งบไม่เยอะ มีงบ 3,000 ก็มีธุรกิจเป็นของตัวเองได้ง่าย ๆ น้องสมหวังจึงได้รวบรวม 30 ธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร เริ่มต้นทำได้ไม่ยาก สำหรับมือใหม่อยากทำอาชีพเสริมที่อาจจะรุ่งจนกลายเป็นอาชีพหลักเลยก็ได้นะครับ
สวัสดีครับ สำหรับคนที่อยากมีธุรกิจส่วนตัวและกำลังมองหาไอเดียค้าขาย อยากเปิดร้านเล็ก ๆ ขายอะไรดีที่ใช้งบไม่เยอะ มีงบ 3,000 ก็มีธุรกิจเป็นของตัวเองได้ง่าย ๆ น้องสมหวังจึงได้รวบรวม 30 ธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร เริ่มต้นทำได้ไม่ยาก สำหรับมือใหม่อยากทำอาชีพเสริมที่อาจจะรุ่งจนกลายเป็นอาชีพหลักเลยก็ได้นะครับ
30 ธุรกิจลงทุนไม่เกิน 3,000 ก็สร้างตัวได้
30 ไอเดียเมนูอาหารสำหรับพี่ ๆ ที่กำลังมองหาอาชีพเสริม อยากลองเปิดร้านเล็ก ๆ ขายอะไรดี หน้าบ้าน หน้าโรงงาน หรือตามตลาดนัด ด้วยงบไม่เกิน 3,000 บาท โดยเมนูอาหารแต่ละประเภทที่น้องสมหวังรวบรวมมา เป็นเมนูทำขายตลาดนัดยอดฮิต ทำขายได้ตลอด วัตถุดิบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็หาได้ไม่ยาก เพื่อให้พี่ ๆ เริ่มต้นสร้างรายได้กันได้เลยแบบไม่ต้องคิดเยอะ ต่อให้ทำอาหารไม่เก่งก็สามารถทำธุรกิจอาหารให้ปังได้ จะมีเมนูอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลยครับ
1. จัดร้านขายของชําให้น่าเข้า
พี่ ๆ รู้กันไหมครับว่า การจัดเรียงสินค้าให้สวยงามแน่นชั้นวาง และแบ่งประเภทของให้ชัดเจน เพื่อความสะดวกในการหาสินค้า จะช่วยให้ลูกค้าอยากเข้าร้านมากกว่า เพราะดูมีสินค้าเยอะน่าเลือกซื้อมากกว่าปล่อยให้ชั้นวางโล่ง หรือล้มระเกะระกะจนสภาพสินค้าดูแย่ ตามด้วยการจัดช่องทางเดินเองก็สำคัญเช่นกัน ควรมีระยะห่างที่พอดีให้ลูกค้าไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป จะได้เดินเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสบายใจนั่นเองครับ นี่จึงเป็นเทคนิคการจัดร้านขายของชำให้น่าเข้าที่น่าสนใจและต้องมีครับ
2. ข้าวยำไก่แซ่บ
อีกหนึ่งเมนูยอดฮิตสำหรับคนชอบกินไก่ทอดและชอบอาหารรสแซ่บจัดจ้าน นั่นก็คือ ข้าวยำไก่แซ่บ เป็นเมนูที่ทำขายได้ง่าย ๆ โดยวัตถุดิบหลักของเมนูนี้คือ เนื้อไก่ โดยส่วนมากจะใช้เป็นสะโพกที่เนื้อจะมีความแน่นแต่มีความนุ่ม กิโลละประมาณ 60-70 บาทเท่านั้น และต้องให้ความสำคัญกับขั้นตอนการนำไก่ไปทอด หลังจากทอดเสร็จแล้วพักให้เย็น ไก่ทอดจะต้องคงความกรอบเอาไว้ เมื่อนำไปยำก็จะมีความเข้ากันได้อย่างพอดี และแน่นอนว่าจุดขายของเมนูนี้คือ ส่วนผสมเครื่องยำ ไม่ว่าจะเป็น พริกป่น, ข้าวคั่ว, น้ำตาลปี๊บ, น้ำมะนาว, น้ำปลา, หอมแดง, ผักชี, ต้นหอม, ผักชีฝรั่ง, ใบสะระแหน่, น้ำเปล่า โดยส่วนผสมของเครื่องยำนี้อาจจะแตกต่างกันออกไปได้ตามสูตรใครสูตรมันนะครับ
3. ยำขนมจีน
ลงทุนขายอะไรดี งบน้อยต้องเมนูนี้เลยครับ ยำขนมจีน ที่วัตถุดิบหลัก ๆ อย่างขนมจีนกิโลละประมาณ 25 บาทเท่านั้น ใครที่ชอบเมนูยำเป็นชีวิตจิตใจแต่ยังไม่พร้อมลงทุนเยอะ แนะนำให้เริ่มจากยำขนมจีนเมนูเดียวก่อนก็ได้ครับ ก่อนที่จะเพิ่มเมนูยำประเภทอื่น ๆ นอกจากขนมจีนแล้ว ยังมีวัตถุดิบหลักอีกหนึ่งอย่างคือ ปลาทูทอดแกะเนื้อ แนะนำว่าแกะให้ดี ๆ อย่าติดก้าง ก็จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ด้วย และจุดเด่นของยำขนมจีนก็ต้องเป็นน้ำยำที่มีความแซ่บนัวของน้ำปลาร้า มาพร้อมถั่วฝักยาวซอย เมล็ดกระถิน และพริกขี้หนูซอย เลือกใส่ได้ตามต้องการเลยครับ
4. ห่อหมก
ห่อหมกมีหลากหลายสูตรให้ได้เลือกทำ โดยห่อหมกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ห่อหมกปลาช่อน ห่อหมกปลากราย และห่อหมกปลานิล สำหรับพี่ ๆ ที่อยากลองทำห่อหมกขายอาจเริ่มต้นที่ห่อหมกปลานิล เพราะมีต้นทุนไม่สูงมากกิโลละประมาณ 47 บาทเท่านั้น แต่ความอร่อยรับรองได้เลยว่าลูกค้าจะติดใจจนขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอย่างแน่นอน โดยทั่วไปจะนิยมขายกระทงละ 10 บาท ซึ่งช่วยให้ขายง่าย ขายไว แถมลูกค้ายังสามารถเลือกชิมห่อหมกได้หลากหลายแบบมากยิ่งขึ้นด้วย
5. กุยช่ายทอด
มีเงิน 3,000 เปิดร้านอะไรดี อยากขายอะไรที่ทำได้ง่าย ๆ ต้องนี่เลยครับ กุยช่ายทอด เมนูทอดยอดฮิตของใครหลายคน ปัจจุบันมีขายแบบสำเร็จรูปด้วย เพียงพี่ ๆ นำกุยช่ายไปทอดก็ขายได้เลย อีกทั้งยังมีกุยช่ายหลากหลายรูปแบบให้เลือกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกุยช่ายสี่เหลี่ยมที่นิยมมากที่สุด กุยช่ายแบบกลมไส้ต่าง ๆ เช่น ไส้ผัก ไส้เผือก ไส้หน่อไม้ผัด เป็นต้น และสิ่งที่ต้องเตรียมอีกหนึ่งอย่างคือ น้ำจิ้มกุยช่าย ที่ทำได้ง่าย ๆ เช่นกัน เพียงใช้น้ำตาลทราย, ซีอิ๊วดำหวาน, น้ำส้มสายชู, น้ำเปล่า, พริกขี้หนูสดบด, และเกลือ
6. ข้าวต้มมัด
นอกจากเมนูอาหารแล้ว เมนูขนมหวานก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ข้าวต้มมัดเป็นเมนูขนมไทยที่มัดใจคนไทยมาอย่างยาวนาน มีให้พี่ ๆ เลือกขายหลากหลายไส้ทั้งข้าวต้มมัดไส้กล้วยน้ำว้า ข้าวต้มมัดไส้ถั่ว หรือข้าวต้มมัดไส้เผือก ซึ่งวัตถุดิบหลักก็หาได้ไม่ยาก ต้นทุนไม่สูง ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียว, หัวกะทิ, น้ำตาลทราย, และเกลือ แต่เนื่องจากมีส่วนผสมของกะทิ พี่ ๆ จะต้องวางแผนการขายให้ดีเพื่อไม่ให้ของเหลือ เพราะไม่ควรเก็บไว้ค้างคืนที่มีโอกาสจะเสียหรือความอร่อยลดลงไป
7. ขนมไข่เต่า
อยากเปิดร้านเล็ก ๆ ขายอะไรดีที่ใช้งบไม่เยอะ มีงบ 3,000 น้องสมหวังขอแนะนำขนมไข่เต่า วัตถุดิบหลักก็จะมีมันเทศสีส้ม ฟักทอง หรือมันม่วง เลือกได้ตามความชอบว่าอยากขายแบบไหนบ้าง, แป้งมัน, น้ำตาลทราย, หัวกะทิ, เกลือป่น, น้ำมันปาล์มสำหรับทอด โดยจุดขายของขนมไข่เต่าคือ เมื่อทอดแล้วจะต้องมีความกรอบนอกนุ่มใน มีกลิ่นหอม น้ำมันที่ทอดจึงมีส่วนสำคัญมาก ไม่ควรใช้น้ำมันซ้ำบ่อย ๆ เพราะน้ำมันจะเหนียวข้น มีกลิ่นเหม็นหืน และเกิดควันมากขณะทอด อาจส่งผลกับความอร่อยของขนมไข่เต่าของพี่ ๆ ได้เลย
8. กล้วยทับน้ำกะทิ
กล้วยทับน้ำกะทิ อีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานและสร้างกำไรได้ค่อนข้างมาก โดยวัตถุดิบหลักอย่างกล้วยน้ำว้าห่าม มีต้นทุนหวีละประมาณ 20 บาทเท่านั้น หรืออาจจะถูกกว่านั้นได้ถ้าซื้อจำนวนเยอะ ๆ และเนื่องจากกล้วยทับน้ำกะทิจะใช้กล้วยน้ำว้าห่าม สิ่งสำคัญของการทำกล้วยปิ้งไม่ให้ฝาด จะต้องไม่ใช้ไฟแรงหรือปิ้งนานเกินไป และจะต้องเลือกกล้วยที่ห่ามกำลังพอดี เพื่อไม่ให้ปิ้งมาแล้วกล้วยแข็งเกินไป และจุดขายที่สำคัญของเมนูกล้วยทับน้ำกะทิก็คือ น้ำกะทิราด ที่มีส่วนผสมของกะทิ, น้ำตาลปี๊บ, เกลือ และใบเตย จะต้องมีความหอม หวาน และข้นกำลังดี
9. ปาท่องโก๋
ลงทุนขายอะไรดี งบน้อย แต่อยากได้กำไรเยอะ ๆ ต้องปาท่องโก๋เลยครับ โดยวัตถุดิบหลักจะใช้เพียงแป้งสาลีอเนกประสงค์ กิโลละประมาณ 37 บาทเท่านั้น แต่อาจจะมีขั้นตอนการทำที่ค่อนข้างซับซ้อน และจะต้องลองผิดลองถูกกันซักหน่อยเพื่อหาสูตรที่ใช่สำหรับเรา โดยขั้นตอนสำคัญจะอยู่ที่การนวดแป้ง พี่ ๆ สามารถนวดด้วยมือหรือเครื่องนวดแป้งก็ได้ โดยจุดขายของปาท่องโก๋คือ ตัวแป้งที่เมื่อทอดออกมาแล้วจะต้องมีความกรอบนอกนุ่มใน มีความเหนียวหนึบกำลังพอดี
10. น้ำเต้าหู้
น้ำเต้าหู้แทบจะเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับคนที่อยากขายของ แต่ไม่รู้จะเปิดร้านอะไรดี แถมยังเป็นเมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่หลายคนนิยมอีกด้วย จะขายตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ได้ โดยขั้นตอนการทำน้ำเต้าหู้จะใช้ถั่วเหลืองกิโลละประมาณ 43 บาทเป็นวัตถุดิบหลัก แต่จะมีขั้นตอนการต้มที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน อาจจะต้องศึกษาให้ดีก่อนลงมือทำ เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด เมื่อทำจนชำนาญและเริ่มมีฐานลูกค้า อาจเพิ่มเมนูอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเต้าฮวย บัวลอยน้ำขิง หรืออาจทำขายคู่กับปาท่องโก๋ก็เป็นไอเดียสร้างรายได้ที่น่าสนใจไม่เบาเลยครับ
11. ร้านลูกชิ้นทอดหรือลูกชิ้นปิ้ง
เริ่มต้นธุรกิจได้ด้วยเงินทุนไม่ถึง 3,000 บาทกับการลงทุนเปิดร้านลูกชิ้นทอด หรือลูกชิ้นอร่อยรสเด็ด อุปกรณ์ก็อาจจะเริ่มจากหม้อทอดในบ้าน หรือเตาถ่าน เตรียมโต๊ะ เตรียมป้ายบอกราคา และถุงพลาสติกใส่ลูกชิ้น พร้อมกับผักสดกับแกล้ม
เราลงทุนซื้อลูกชิ้น 1,500 บาท เสียบไม้ละ 4-5 ลูก (ค่าประมาณคร่าว ๆ นะครับ สามารถเฉลี่ยตามต้นทุนที่เราซื้อลูกชิ้นได้จ้า) เตรียมน้ำจิ้มใส่ลูกชิ้น 200 บาท รวมจ่ายเบ็ดเสร็จไม่น่าจะเกิน 2,500 บาท ตั้งราคาขายไม้ละ 5-25 บาท (ตามประเภทของลูกชิ้นที่เราซื้อมา)
ถ้าทำเลดีมีผู้คนพลุกพล่าน เช่น หน้าโรงเรียน โรงงาน ขยันขายทุกวัน น้ำจิ้มอร่อย ๆ กำไรอย่างน้อย ๆ วันละ 500 บาทแล้วครับ อย่างไรก็ดี ต้องควบคุมคุณภาพของลูกชิ้นให้ดีอย่าปล่อยให้ลูกชิ้นเน่าเสียหรือบูดนะ เพราะอาจจะทำให้เราขาดทุนและเสียลูกค้าได้นะจ้ะ
12. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
มีเงิน 3,000 ขายของอะไรดี ข้าวเหนียวหมูปิ้งก็เป็นอีกธุรกิจน่าสนใจครับ สำหรับสิ่งที่ต้องซื้อหลัก ๆ คือ เนื้อหมู, ไม้เสียบ, ข้าวเหนียว และถุงใส่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ส่วนเตาปิ้งเราทำเองก็ได้หรือซื้อเตาธรรมดาใช้ไปก่อน จำไว้ว่าเวลาจ่ายตลาดห้ามใช้งบเกิน 3,000 บาทนะจ้ะ คุมงบประมาณให้ดีเพื่อกำไรครับ
คิดรายได้คร่าว ๆ ถ้าขายไม้ละ 10 บาทได้ 100 ไม้ เป็นเงิน 1,000 บาท ข้าวเหนียวถุงละ 10 บาท ขายได้ 100 ถุง เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 2,000 บาท หักกับต้นทุนก็มีกำไรเหลือ ๆ เนื่องจากข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นอาหารที่ขายได้ตลอดทั้งวัน หรือมีทำเลดี ๆ อาจจะขายได้มากกว่าวันละ 100 ไม้ ซึ่งจะทำให้เรามีกำไรมากขึ้นด้วยครับ
13. ขายหม่าล่าปิ้งย่าง
หม่าล่าปิ้งย่างเนี้ยะถือเป็นอาหารยอดฮิตแห่งยุคเลยก็ว่าได้ครับ คนที่คิดจะขายหม่าล่าเป็นอาชีพเสริม สามารถลงทุนได้เองไม่ต้องผ่านแฟรนไชส์ แค่มีเงินทุนเริ่มต้นเพียง 3,000 ก็เริ่มต้นอาชีพนี้ได้แล้ว เบื้องต้นเราจะต้องลงทุนวัตถุดิบและเครื่องปรุงหมาล่า อุปกรณ์จะมี เตาปิ้งย่าง ตะแกรงพักของย่าง ไม้ทาพริกหม่าล่า ถุงพลาสติกหรือกล่องโฟม และพลาสติกวางรองกล่อง หรือถ้วยพลาสติกสำหรับใส่ขาย และเพื่อรักษาความสดให้กับเนื้อและผักควรมีตู้แช่สำหรับแช่เนื้อในระหว่างขายด้วย เพราะถ้าหลายชั่วโมง อาจมีกลิ่นหรือไม่น่ารับประทานได้นะ
14. ข้าวไข่เจียว ข้าวไข่เจียวฟูกรอบ
มาถึงร้านข้าวไข่เจียวลงทุนไม่ยาก โต๊ะ 1 ตัว เตาแก๊ส จานโฟม ช้อนส้อมพลาสติก วัตถุดิบสำหรับผสมไข่เจียว เช่น หมูสับ, ปูอัด, หมูยอ, ผัก, ไก่สับ ฯลฯ ซึ่งเราอาจไม่ต้องมีเครื่องเคียงมากนักในช่วงแรกที่ทำธุรกิจ แต่ที่ต้องมีและเป็นพระเอกของธุรกิจนี้เลยก็คือ ข้าวและไข่ไก่
ยกตัวอย่างต้นทุน ข้าวสารราคาถังละประมาณ 450 บาท ไข่เบอร์ 1-2 แผงละประมาณ 95 บาท ได้ไข่ไก่ 30 ใบ ต้นทุนเบ็ดเสร็จพร้อมเปิดร้านประมาณ 2,000 บาท หากเราขายข้าวไข่เจียวจานละ 20-25 บาท แค่ 100 จานก็ได้เงิน 2,500 บาท อาจจะเพิ่มเครื่องให้หลากหลาย หรือเพิ่มน้ำจิ้มรสเด็ดที่หลากหลายมากกว่าซอสพริก ซอสมะเขือเทศ ไม่ว่าจะเป็น น้ำจิ้มแจ่ว, น้ำจิ้มซีฟู้ด ที่เข้ากับรสชาติของไข่เจียว เพื่อสร้างเสน่ห์ให้กับร้านไข่เจียวของเราก็ได้นะ
15. ร้านโจ๊ก
ใช้ทุนไม่สูงอย่างที่คิดต้นทุนสำคัญคือข้าวสำหรับทำโจ๊ก ไข่ หมู เริ่มต้นง่าย ๆ ก่อนได้ครับไม่ต้องมีวัตถุมากนัก ส่วนพวกเครื่องปรุงเดี๋ยวนี้ก็มีที่ทำสำเร็จรูปเป็นซองเราไปซื้อมาได้เลย แค่ตั้งโต๊ะ หม้อโจ๊กขนาดใหญ่ 1 ใบ เปิดร้านแบบง่าย ๆ ไม่ต้องนั่งทานให้ซื้อกลับบ้านอย่างเดียวต้นทุนรวม 3,000 เอาอยู่แน่นอน ขายโจ๊กถุงละ 30-35 บาท ขายสัก 100 ถุงก็ได้เท่าทุน และยิ่งเปิดร้านนาน ๆ มีลูกค้าประจำแล้วคำนวณได้เลยว่าแต่ละวันจะขายได้ประมาณเท่าไหร่ ธุรกิจนี้ยังไงก็กำไร
ออกไอเดียว่า เตรียมไข่หลากหลายรูปแบบให้ลูกค้าเลือกก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจครับ เช่น ไข่ลวก ไข่สุก หรือไข่เค็ม ได้ตามสไตล์ที่เราต้องการสร้างคาแรคเตอร์ให้ร้านได้เลยล่ะ
16. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
เมนูเพื่อสุขภาพอีกอันที่น่าลงทุนครับ สำหรับธุรกิจลงทุนไม่เกิน 3,000 บาท ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนใช้ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ มีแป้ง ผักต่าง ๆ หมูสับหรือไก่ หมูยอ ปูอัด เครื่องทำน้ำจิ้ม ถ้าขายก๋วยเตี๋ยวลุยสวนในราคากล่องละ 30-35 บาท ขายได้ 300 กล่อง เป็นเงิน 9,000 – 10,500 บาทแล้ว
17. ขายแซนวิช
แซนวิชมีหลายอย่าง เช่น แซนวิชหมูหยอง, แซนวิชแฮม, แซนวิชไข่ดาวหมูยอง, แซนวิชผัก หรือแซนวิชโบราณ ฯลฯ เบื้องต้นเราอาจไม่ต้องมีสินค้ามากเกินไป เอาตามงบประมาณที่มี โดยตั้งราคาขายตามคุณภาพและขนาดของแซนวิชครับ คือตั้งราคาเพิ่มมากกว่าต้นทุน 5-10 บาท ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขายคือเช้า และเย็น สำหรับต้นทุนที่สำคัญคือขนมปังและวัตถุดิบประกอบต่าง ๆ เช่น หมูหยอง แฮม ผัก ไข่ดาว ฯลฯ เบ็ดเสร็จต้นทุนอยู่ประมาณ 2,000 บาทครับ แต่ละวันถ้าขายได้ 100 ชิ้นก็ถือว่าเท่าตัว แต่หากทำตลาดดี ๆ ขายส่งตามโรงเรียนขายส่งตามออฟฟิศ หรือมีออร์เดอร์ประจำ แค่ 100 ชิ้นถือว่าง่ายมากเผลออาจขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 500 ชิ้นทีเดียว รายได้ก็ลองคูณดูว่าจะมากขึ้นแค่ไหนนะ
18. ร้านยำ
ยำคนนิยมมาก เบื้องต้นเราอาจใช้งบ 3,000 ทำเมนูยำที่ไม่มากเกินไป เตรียมยำหลัก ๆ อย่างเช่น ยำวุ้นเส้น ยำมาม่า ยำไข่เยี่ยวม้า ยำตีนไก่ ยำหมูยอ ฯลฯ ซึ่งต้องพยายามคำนวณให้อยู่ในงบประมาณที่เรามี ยิ่งถ้าเรามีฝีมือในการทำยำให้รสชาติจัดจ้าน เพิ่มความปลาร้านัว ๆ รับรองว่า ขายดีคนติดใจซื้อทุกวันแน่นอนครับ ราคาขายตักใส่ถุงละ 35-40 บาท มีรายได้ต่อวันไม่น่าจะต่ำกว่า 3,000 บาท เราเอากำไรมาต่อยอดทำยำเพิ่มก็จะทำให้มีรายได้มากขึ้นด้วย
19. วุ้นแฟนซี
ต้นทุนวุ้นแฟนซีไม่มีอะไรมาก ผงวุ้น กลิ่น สี แป้นพิมพ์ และกล่องใส่วุ้น เบ็ดเสร็จ 3,000 พอไหว สิ่งสำคัญคือสีสันและความสวยงาม ขายเป็นกล่องกล่องละ 20-30 บาท ซึ่งสามารถขายได้ทั้งหน้าร้านและขายออนไลน์ รวมถึงขายฝากตามร้านต่างๆ ได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่หลายคนมองข้ามแต่ถ้าคิดทำจริงจังลงทุนไม่สูงแต่กำไรดี ขึ้นอยู่กับไอเดียด้วยครับ
20. ผัดมาม่าและเส้นต่าง ๆ
สามารถขายได้ในราคาห่อละ 10-15 บาท และจะให้ดีควรมีวัตถุดิบให้ลูกค้าเลือกผสมเพิ่มเติมจะทำให้ขายง่ายขึ้นเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น เช่น ลูกชิ้น หมูสับ ไข่ ผัก แฮม ฯลฯ โดยรวมต้นทุนใช้ไม่มาก แค่ 1,000 บาทก็เอาอยู่แล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการขายว่าจะทำอย่างไรให้คนติดใจ เมนูนี้ไม่ต้องพูดมากไม่ต้องโฆษณาเยอะ แค่ทำอร่อยๆ คนก็ติดใจแน่นอน ดีไม่ดีในกรณีลูกค้าเยอะอาจต้องมีการเพิ่มสาขาตัวเอง รายได้วันละ 2,000-3,000 น่าจะได้สบาย ๆ ครับ
21. ขายน้ำแข็งไส
กินตอนร้อน ๆ ยิ่งชื่นใจ เทคนิคคือต้องมีน้ำหวานให้เลือกหลายสี หรือเพิ่มพิมพ์น้ำแข็งใสทรงกลม ทรงเหลี่ยม มีท็อปปิ้งหลายอย่าง และต้องสะอาด ภาชนะต้องได้มาตรฐาน กลุ่มลูกค้าที่สนใจมักอยู่ในวัยเด็ก-วัยผู้ใหญ่ การลงทุนใช้แค่ 1,000 บาทก็เอาอยู่ แต่ต้องหาแหล่งขายสินค้าที่เหมาะสมด้วย ราคาขายถ้วยละ 15-20 บาท ถ้าทำแบบสะสมกำไรไว้แล้วนำมาต่อยอดธุรกิจเพิ่มสินค้าให้มากขึ้น จัดร้านให้น่าสนใจขึ้น อนาคตก็จะเป็นธุรกิจที่แข็งแรงได้เช่นกัน
22. ขายไก่ทอด
ไก่ไหมครับไก่ ? ไก่ทอดเป็นอาหารยอดฮิตที่ยุคไหนก็ขายดี ยิ่งตอนเช้า ๆ จะขายดีมาก อุปกรณ์เราหาเองได้ง่าย ๆ ใครที่อยากมีอาชีพไม่รู้จะเริ่มจากอะไรเปิดร้านขายไก่ทอดแบบง่าย ๆ รายได้อาจจะดีกว่าที่คิดก็ได้ พร้อมกับฝึกฝนเทคนิคดี ๆ ในการทอดไก่ หมักไก่ และขายคู่ข้าวเหนียวร้อน ๆ อร่อย ๆ
23. ร้านน้ำพริกผักลวก
จะมีเครื่องเคียงเป็นผักลวก ปลาทู ไข่ต้ม ไข่ชะอม และอาจจะมีน้ำพริกอื่น ๆ มาร่วมแทรกด้วย ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่มีมานาน และคนก็ยังให้ความนิยมอยู่ เพียงแต่การจะทำให้เป็นธุรกิจได้ก็ต้องรู้จักพัฒนาฝีมือให้คนติดใจ และแพคเกจก็ต้องเหมาะสมให้คนซื้อกลับบ้านได้ง่าย ๆ การลงทุนไม่เกิน 3,000 ก็ได้น้ำพริกหลายชนิดเลยครับ
24. ขายส้มตำ
ส้มตำเป็นเมนูเด็ดที่หลายคนชื่นชอบ ส่วนใหญ่มักทานกันในช่วงเวลากลางวันหรือตอนเย็น ถ้าพูดถึงต้นทุนให้ไม่เกิน 2,000 บาท ยกเว้นแต่จะมีไก่ย่าง หรือเครื่องเคียงอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย ส่วนรายได้การันตีได้เลยว่า ยิ่งถ้ามีฝีมือ คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีก บางวันถ้าลูกค้าเยอะ รายได้มีมากถึงหลักหมื่นเลยทีเดียวครับ
25. ของทอดทานเล่น
อาหารทานเล่นมีหลายอย่าง เช่น เฟรนฟราย ไก่ทอด ข้าวโพดทอด ลูกชิ้นทอด ขนมปังทอด เป็นต้น ถ้าเราสามารถทำเมนูทานเล่นให้อร่อย มีรสชาติที่ติดปาก ลูกค้าขาประจำก็จะเยอะตามไป คนที่ทำธุรกิจนี้จริง ๆ จัง ๆ ขายได้ไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ต่อวัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทำเล ส่วนต้นทุนนั้นไม่เกิน 3,000 เพราะเดี๋ยวนี้มีแบบสำเร็จรูปให้เราไปซื้อมาทอดขาย เราเลือกได้ว่างบที่มีอยู่จะซื้อวัตถุดิบมาเริ่มต้นขายได้เท่าไหร่ครับ
26. กล้วยทอด มันทอด เผือกทอด
มีเงิน 3,000 ลงทุนอะไรดีการเปิดร้านกล้วยทอดมันทอด เผือกทอดก็น่าสนใจครับ เทคนิคการทำให้อร่อย ต้องอร่อยที่ตัวแป้ง และต้องไม่ติดน้ำมันมากจนเกินไป อีกทั้งต้นทุนที่ใช้ก็ไม่สูงมาก ถ้าเริ่มเปิดร้านแรกไม่ต้องมีขนาดใหญ่โต ให้คำนวณต้นทุนและสัดส่วนสินค้าที่คุณจะขายให้ดี
27. ขนมจีนน้ำยา
แม้จะดูเป็นเมนูจุกจิกในเรื่องของส่วนผสม แต่ต้นทุนโดยรวมไม่เกิน 3,000 ก็ทำขนมจีนน้ำยาขายได้แน่ เริ่มต้นธุรกิจไม่ต้องตั้งร้านใหญ่โต แค่มีที่ในเขตชุมชนหรืออยู่ใกล้ตลาดนัดน้ำยา 1 หม้อ ขนมจีนพร้อมขาย ไว้มีเงินทุนค่อยเพิ่มเมนูอื่นประกอบเข้าไปอย่างน้ำพริกขนมจีน แกงเขียวหวาน น้ำเงี้ยว ขนมจีนน้ำย้อย ต้องไม่ลืมเครื่องเคียงอย่างผักสด ผักดอง ขายชุดละ 30-35 บาทครับ
28. รับทำอาหารกล่อง
อันนี้น่าจะทีเด็ดคือยังไม่ต้องลงทุนอะไรเลย รับออเดอร์มาก่อนว่าลูกค้าต้องการสั่งเมนูอะไร จำนวนเท่าไหร่ เมื่อได้ออร์เดอร์แน่นอนค่อยไปซื้อวัตถุดิบมาข้อดีของวิธีการนี้คือ คำนวณได้ครับว่าเราจะมีกำไรเท่าไหร่ แม้จะออกทุนไปก่อนแต่ไม่นานเมื่อส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้หมด กำไรก็จะอยู่ในนั้นเรียบร้อย ยิ่งยุคนี้มีสื่อออนไลน์อย่างโซเชียลมีเดียมาเป็นตัวช่วย รวมกับการหาลูกค้าจากออฟฟิศต่าง ๆ ยิ่งมีมาก กำไรเรายิ่งดีขึ้น และถ้ากำลังมองหาที่ฝากร้านสามารถมาฝากร้านฟรีที่กลุ่มตลาดนัดสมหวังนะครับ
29. ขายข้าวโพดต้ม
บางคนคิดไม่ถึงว่าข้าวโพดต้มจะขายดีได้อย่างไร นี่คือเมนูบ้าน ๆ แต่รายได้ไม่บ้าน ๆ นะครับ ต้นทุนข้าวโพดดิบกิโลกรัมละ 8-10 บาท ติดต่อกับสวนข้าวโพดได้ยิ่งดีครับ ซื้อมาสัก 100 กิโลกรัมก็ประมาณ 1,000 บาท ได้ข้าวโพดประมาณ 200 ฝัก (น้ำหนักเฉลี่ย 2 ฝัก/กก.) ไม่ต้องกังวลเรื่องหม้อต้มหากยังไม่มีทุนมากก็ใช้หม้อธรรมดาไปก่อน ต้นทุนที่เหลือคือค่าแก๊ส ราคาขาย ตั้งแต่ ฝักละ 15-20 บาท ถ้ามี 200 ฝัก ก็ขายได้ 1,500-2,000 บาท แต่แม่ค้าข้าวโพดต้มส่วนใหญ่จะขายได้วันละมากกว่า 5,000 บาท คิดดูว่ากำไรดีแค่ไหน และวิธีการก็ไม่ยุ่งยาก สินค้าขายตัวเองได้ และคนที่นิยมก็ยังมีมากอีกด้วย จะลองเพิ่มน้ำตาล เพิ่มมะพร้าว หรือท็อปปิ้งอื่น ๆ ก็ได้ตามชอบครับ
30. ขายขนมปังปิ้ง
ขนมปังปิ้ง เมนูง่าย ๆ สร้างรายได้ยามเช้า เงินลงทุนเบื้องต้นไม่เกิน 3,000 ได้อยู่ วัตถุดิบมีขนมปัง ราคาขึ้นอยู่กับขนาด น้ำหนัก และการหั่นขนมปัง ถ้าเป็นขนมปังที่ยังไม่ได้หั่นมาให้ก็จะถูกกว่า
- แยม 1 กิโลกรัมเริ่มต้น 65 บาท
- มายองเนส 1 กิโลกรัมเริ่มต้น 50 บาท
- ช็อคโกแลตนูเทลล่า 680 กรัมเริ่มต้น 350 บาท
- เนย 5 กิโลกรัม เริ่มต้น 750 บาท
อุปกรณ์เตา มีด โต๊ะ โหลใส่แยม เอาจากในบ้านก่อนได้ จานกระดาษ 100 ชิ้น เริ่มต้นที่ 60 บาท/แพ็ค ถุงพลาสติก ราคาเริ่มต้น 60 บาท/แพ็ค การเลือกทำเลขาย ควรอยู่ในย่านชุมชน หน้าโรงเรียน ย่านมหาลัยหรือแหล่งออฟฟิศ บริเวณใกล้กับป้ายรถเมล์ บริเวณสถานีรถไฟฟ้า ตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านในตอนเช้า เพราะจะสามารถขายได้ในปริมาณที่มากในเวลาที่จำกัด
มองหาเงินทุนสมหวังช่วยพี่ได้
เป็นอย่างไรบ้างครับ ได้ไอเดียทำธุรกิจทุน 3,000 ลงทุนทำอะไรดีกันแล้วใช่ไหมครับ และถ้ามองหาเงินทุนเปลี่ยนรถเป็นเงินทุน รถยังมีขับ ดูรายละเอียดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเพื่อหมุนเวียนธุรกิจ SME กับสมหวัง ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ หรือจะโทรมาพูดคุยกันก่อนก็ได้ครับที่เบอร์ 02-123-4000 หรือ ทักไลน์ @somwang
หมายเหตุ : ธนาคารของสงวนสิทธิ์ในการกำหนดวงเงิน อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และผู้ค้ำประกัน โดยพิจารณาจากยี่ห้อ รุ่น ปีที่จดทะเบียนของรถ รวมถึงรายได้และสถานภาพต่างๆ ของผู้สมัคร ภายใต้หลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร